โรงเรียนวัดบึงน้ำใส
Wat Bueng Nam Sai School
www.wbns.ac.th
โรงเรียนวัดบึงน้ำใส
Wat Bueng Nam Sai School
www.wbns.ac.th
วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568 นางสาวพิธฐญาพร สุดจิตร ครูโรงเรียนวัดบึงน้ำใส รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบึงน้ำใส พร้อมด้วยคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา รับการนิเทศ กำกับ ติดตามจาก นายมารุต เหล่าแก้วก่องและนางเสาวลักษณ์ สร้อยสวน ศึกษานิเทศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ในเรื่องนวัตกรรม 3E การใช้งานระบบ คลังสื่อและเทคโนโลยีและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ซึ่งเป็นนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่าทางโรงเรียนได้ดำเนินการทั้ง 3 เรื่อง ได้เป็นรูปธรรมและมีความชัดเจนในทุกเรื่อง ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 นำโดย นางธนิดา ปัญญานพกุล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านมะเกลือ และคณะ ได้เป็นประธานพิธีเปิดอบรมโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School)
โครงการโรงเรียนปลอดขยะ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลด
การคัดแยกขยะ และการนำขยะกลับมาใช้ใหม่
2. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเห็นความสำคัญ และสามารถปฏิบัติในเรื่องการลด
การคัดแยกขยะ และการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้
3. เพื่อให้โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นสวยงาม ปลอดขยะ และมีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้
4. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย และมีความซื่อสัตย์สุจริต
โรงเรียนวัดบึงน้ำใสจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมโรงเรียนปลอด ขึ้น
ในการจัดโครงการในครั้งนี้ มีนักเรียนเข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 111 คน แบ่งกิจกรรมเป็น 2 ภาค ได้แก่ ภาคทฤษฎี นักเรียนจะได้รับการอบรมในหัวข้อ“แยกให้เป็นเห็นอนาคต” และ “หนึ่งมือแยกขยะ คือพลังของชุมชน”
ในส่วนของภาคปฏิบัตินักเรียนจะได้เข้าร่วมกิจกรรม “เย็บถุงรักษ์โลก สืบทอดภูมิปัญญา” โดยกิจกรรมทั้งหมดได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านมะเกลือ
นายมงคล อู๋สูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบึงน้ำใส ในนามของคณะกรรมการดำเนินงาน โครงการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมนอกเวลาเรียน
(รำกลองยาว) ประจำปีการศึกษา 2568 ขอขอบคุณนายกองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านมะเกลือเป็นอย่างสูง ที่ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการในวันนี้
ด้วยทางโรงเรียนวัดบึงน้ำใส ได้รับงบอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านมะเกลือ ให้ดำเนินงานโครงการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมนอกเวลาเรียน (รำกลองยาว) มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ และฟื้นฟูมรดกทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านด้านดนตรีและศิลปะการแสดง และเพื่อสร้างความสามัคคีของนักเรียนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรม โรงเรียนวัดบึงน้ำใสจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมนอกเวลาเรียน (รำกลองยาว) ขึ้น
ในการจัดโครงการในครั้งนี้ มีนักเรียนเข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 112 คน แบ่งกิจกรรมเป็นฐานการเรียนรู้ทั้งหมด 4 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่
1. ฐานท่ารำ
2. ฐานจับจังหวะ
3. ฐานฮัมเพลง
4. ฐานเปิดป้ายทายคำ
โดยกิจกรรมทั้งหมดได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจากองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านมะเกลือ
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568 คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนวัดบึงน้ำใส นำโดยนายมงคล อู๋สูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียน รับการนิเทศติดตาม จากคณะนิเทศ สพป.นว.1 ได้มานิเทศ ติดตามการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสู่ผู้เรียน สำนึกบ้านเกิด โรงเรียนวัดบึงน้ำใส พบว่า โรงเรียนวัดบึงน้ำใส ได้ดำเนินงานได้ดีเยี่ยม มีนวัตกรรมแหล่งเรียนรู้วัดบึงน้ำใส ชุมชน (เต้นกำรำเคียว) ครูมีวิธีปฏิบัติที่ดี มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และได้เสนอแนะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชั้นเรียน สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย
วันที่ 15 สิงหาคม 2568 โรงเรียนวัดบึงน้ำใส ได้รับความอนุเคราะห์จากสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ดำเนินการจัดกิจกรรม โครงการ ครู D.A.R.E โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.มีชัย ตลอดภพ รอง สวป.สภ.บางม่วง ,ร.ต.อ.ไพรัตน์ พูลเพิ่ม รอง สวป.สภ.บางม่วง ,ร.ต.ท.ปรีดา วงศา รอง สว.(ป.) สภ.บางม่วง ,ด.ต.สุวิชัย จันทร์ฉ่ำ ผบ.หมู่(ป) สภ.บางม่วง มาให้ความรู้เกี่ยวโทษของบุหรี่ไฟฟ้า ให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดบึงน้ำใส ทางโรงเรียนวัดบึงน้ำใสขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
โรงเรียนวัดบึงน้ำใสได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอัศจรรย์ความคิด คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยพระมหาพนมเฑียร ปุญญชาโต เจ้าอาวาสวัดบึงน้ำใส เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม กิจกรรมช่วยเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่นักเรียน ผ่านการจัด การทดลอง การประกวดแข่งขัน และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ต่าง ๆ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล การสังเกต การตั้งคำถาม และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังกระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้นักเรียนมีทักษะและคุณลักษณะสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 อย่างรอบด้าน